การ์ตูนไทย จากคำบอกเล่า
เริ่มจากเป็นการ์ตูนแนวนิยายพื้นบ้าน ผี และแนวจักร ๆ วงศ์ ๆ ราคาเล่มละ 1 บาท
นักเขียนการ์ตูนไทยที่มีชื่อเสียงสมัยนั้น เช่น จุก เบี้ยวสกุล
ต่อมาเริ่มมีการ์ตูนไทยแนวตลกสั้น ๆ ในลักษณะ การ์ตูน 3 ช่องจบ ออกมาเพิ่ม เช่น หนูจ๋า เบบี้ ขายหัวเราะ
และมหาสนุก
ยุคแรก ภาพล้อฝีมือขุนปฏิภาคพิมพ์ลิขิต
(เปล่ง ไตรปิ่น) นักเขียนการ์ตูนล้อเลียนการเมืองคนแรกของไทย ประวัติศาสตร์การ์ตูนไทยเริ่มจากการเข้ามาของวิทยาการเขียนภาพแบบตะวันตก
ซึ่งขรัวอินโข่ง จิตรกรในสมัยรัชกาลที่ 3 - รัชกาลที่ 4
แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
ได้นำมาใช้เป็นคนแรกในการเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังในลักษณะเหมือนจริง
หลายคนจึงถือกันว่าท่านเป็นนักเขียนการ์ตูนไทยคนแรก
![]() |
ภาพวาดของ “ขรัวอินโข่ง”
|
ต่อมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 6 ภาพล้อเลียนหรือการ์ตูนในเมืองไทยเป็นที่นิยมแพร่หลายมากขึ้น
โดยเฉพาะแนวการ์ตูนล้อเลียนการเมือง
ยุคนี้ได้มีนักเขียนการ์ตูนล้อการเมืองคนแรกเกิดขึ้น คือ ขุนปฏิภาคพิมพ์ลิขิต
(เปล่ง ไตรปิ่น)
ภาพล้อ
ฝีมือขุนปฏิภาคพิมพ์ลิขิต (เปล่ง ไตรปิ่น)
นักเขียนการ์ตูนล้อการเมืองคนแรกของไทย
นักเขียนการ์ตูนล้อการเมืองคนแรกของไทย
![]() |
ปกการ์ตูนนิยายภาพสำนักพิมพ์บรรลือสาส์นวาดโดย ราชันย์
ยุคซบเซา ยุคที่การ์ตูนไทยเงียบหาย
แต่ยังแอบทำหน้าที่เงียบๆ ตามซอกหลืบ
เป็นการ์ตูนราคาถูกที่พอให้ผู้อ่านหาซื้อได้โดยเบียดเบียนเงินในกระเป๋าให้น้อยที่สุด
อาจลดคุณภาพลงบ้างตามความจำเป็น นี่คือยุคของ "การ์ตูนเล่มละบาท"
โดยเริ่มเกิดขึ้นครั้งแรกโดยสำนักพิมพ์สากล ต่อมาหลายสำนักพิมพ์ก็ทำตามออกมา
สำนักพิมพ์สุภา,สำนักพิมพ์สามดาว,
บางกอกสาร์น เป็นต้น
นับเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่การ์ตูนไทยทำหน้าที่เพื่อต่อผ่านไปยังการ์ตูนยุคต่อมา
แม้กระนั้นนักเขียนการ์ตูนไทยยุคนั้นก็ฝากฝีมือไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมหลายท่านด้วยก้น
เช่น นักรบ รุ่งแก้ว,รุ่ง เจ้าเก่า,เพลิน,เทพบุตร, ชายชล ชีวิน,แมวเหมียว,ราตรี,น้อย ดาวพระศุกร์,ดาวเหนือ, มารุต เสกสิทธิ์ เป็นต้น โดยบางครั้งก็ได้นักวาดการ์ตูนที่มีชื่อเสียงในยุคก่อนหน้านั้นช่วยเขียนปกให้
เพื่อเสริมคุณภาพขึ้นอีกระดับหนึ่ง เช่น จุก เบี้ยวสกุล
เป็นเหตุทำให้การ์ตูนเล่มละบาท ได้รับความนิยมขึ้นเป็นอย่างมากในยุคหนึ่ง
จนสามารถทำให้คำว่า"การ์ตูนเล่มละบาท" กลายเป็นตำนาน เป็นชื่อเฉพาะ
และเป็นสัญลักษณ์ ที่เรียกกันมาจนถึงทุกวันนี้ เป็นสไตล์การ์ตูนที่มีลักษณะเฉพาะ
สำนักพิมพ์ที่เป็นแหล่งรวมของนักวาดการ์ตูน มีมากมาย เช่น บางกอกสาส์น,
ชนะชัย
การ์ตูนเล่มละบาทนี้เป็นที่ฝึกฝนฝีมือของนักเขียนการ์ตูนหน้าใหม่
นักเรียนศิลปะที่ต้องการหารายได้ในระหว่างเรียนหนังสือ
ปัจจุบันหลายท่านกลายเป็นนักเขียนการ์ตูนคุณภาพระดับแนวหน้าของเมืองไทย
ปกหนังสือการ์ตูนเล่มละบาทของสำนักพิมพ์บางกอกสาส์นวาดโดย
ชายชล ชีวิน
หน้าปกการ์ตูนขายหัวเราะฉบับที่ 1 พ.ศ. 2529
จาก www.oknation.net/blog/print.php?id=122844
จาก www.oknation.net/blog/print.php?id=122844
ตัวอย่างการ์ตูนไทยแนวมังงะ
: angel delivery
ตำนานป่วน ก๊วนนางฟ้า
ฉบับรวมเล่ม
การ์ตูนไทยแนวมังงะ
ขณะที่การ์ตูนญี่ปุ่นเข้ามาเผยแพร่ในไทยก็ได้มีคนกลุ่มหนึ่งอยากผลิดการ์ตู นขึ้นเองบ้าง แต่ก็มีลายเส้นป็นเอกลักษ์เฉพาะตัวจะเห็นได้จากพวกที่วางขายของ hand made ตามถนน แต่บางพวกก็ส่งผลงานเข้าสำนักพิมพ์ที่อยู่ในไทย เช่น สำนักพิมพ์บงกชพับลิชชิ่ง สำนักพิมพ์ NED ก็มี ส่วนมากยังไม่มีการสอนวาดรูปการ์ตูนชนิดนี้อย่างเป็นทางการสักเท่าไหร่ ส่วนมากนั้นจะเป็นการเขียนเองโดยใช้พรสวรรค์เสียมากกว่า และมักจะไม่พบเห็นกันง่ายๆ อีกทั้งงานประจำปีของการ์ตูนก็ยังมีแค่กรุงเทพเท่านั้นทำให้นักเขียนเลือดใหม่ที่ไม่ได้อยู่กรุงเทพมีโอกาสแสดงฝีมือได้น้อยลง
ขณะที่การ์ตูนญี่ปุ่นเข้ามาเผยแพร่ในไทยก็ได้มีคนกลุ่มหนึ่งอยากผลิดการ์ตู นขึ้นเองบ้าง แต่ก็มีลายเส้นป็นเอกลักษ์เฉพาะตัวจะเห็นได้จากพวกที่วางขายของ hand made ตามถนน แต่บางพวกก็ส่งผลงานเข้าสำนักพิมพ์ที่อยู่ในไทย เช่น สำนักพิมพ์บงกชพับลิชชิ่ง สำนักพิมพ์ NED ก็มี ส่วนมากยังไม่มีการสอนวาดรูปการ์ตูนชนิดนี้อย่างเป็นทางการสักเท่าไหร่ ส่วนมากนั้นจะเป็นการเขียนเองโดยใช้พรสวรรค์เสียมากกว่า และมักจะไม่พบเห็นกันง่ายๆ อีกทั้งงานประจำปีของการ์ตูนก็ยังมีแค่กรุงเทพเท่านั้นทำให้นักเขียนเลือดใหม่ที่ไม่ได้อยู่กรุงเทพมีโอกาสแสดงฝีมือได้น้อยลง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น